วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2552

รู้จัก สิงโต The Star อายุน้อยที่สุด ของเมืองไทย


สิ้นสุดการรอคอย ในที่สุดหนุ่มน้อยหน้ามนจากจังหวัดขอนแก่น สิงโต-สิงหรัตน์ จันทร์ภักดี ก็คว้าชัย บนเวที The Star ค้นฟ้าคว้าดาว ซีชัน 5 ด้วยคะแนนโหวต สูงสุด 53.77% ในขณะที่ดิว-พงศธร สุภิญโญ ตามมาติดๆ ที่ 46.22% ทำให้ขณะนี้สิงโตกลายเป็นเดอะสตาร์ที่มีอายุน้อยที่สุดของเมืองไทย เรามาทำความรู้จักเดอะสตาร์คนใหม่กันดีกว่า
ส่วนที่เหลือ ประวัติชื่อ-สกุล สิงหรัตน์ จันทร์ภักดี ชื่อเล่น สิงโต วันเกิด 3 มิถุนายน 2535 ราศี พฤษภ ส่วนสูง 179 ซ.ม. น้ำหนัก 62 ก.ก. พี่น้อง 1 คน การศึกษา ม.4 โรงเรียนกัลยาณวัตร อุปนิสัย ตั้งใจ จริงใจ ทุ่มเท แต่ผ่อนคลาย คติประจำใจ ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว เวลาว่าง อ่านหนังสือ เล่นกีฬา ดนตรี แนวเพลงที่ชอบ Pop Rock แนวหนังที่ชอบดู แอ็คชั่น สถานที่เที่ยว - อาหารจานโปรด ข้าวผัดปู กีฬา ฟุตบอล บาสเก็ตบอล สัตว์เลี้ยง สุนัข แมว ศิลปินคนโปรด แบงค์ วงแคลช , ปั๊บ โปเตโต้ นักแสดงที่ชื่นชอบ ชาคริต แย้มนาม บทบาทที่อยากแสดง คนตาบอด "สิงโต" เปิดใจหลังคว้าแชมป์เดอะสตาร์คนล่าสุดผ่าน "แฉแต่เช้า" หลังคว้ารางวัลชนะเลิศเป็นเดอะสตาร์ คนที่ 5 ของเมืองไทยที่อายุน้อยที่สุดแล้ว สิงโต-สิงหรัตน์ จันทร์ภักดี ได้โฟนอินเปิดใจครั้งแรกผ่านรายการวิทยุดัง แฉแต่เช้า คลื่น 94 อีเอฟเอ็ม เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น. ที่ผ่านมา โดยมีดีเจคนดัง มดดำ-คชาภา ตันเจริญ และ กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์ สัมภาษณ์เดอะสตาร์คนล่าสุดซึ่งสิงโตเผยหลังจากที่ได้รับตำแหน่งว่า รู้สึกตื่นเต้น ไม่คิดว่าจะได้ ตอนแรกคิดว่าเป็นพี่ดิว (พงศธร สุภิญโญ) มากกว่า เพราะคิดว่าพี่ดิวเก่ง ซึ่งมดดำถามอีกว่า ที่สิงโตได้ตำแหน่งมาเพราะสู้เพื่อแม่เหมือนตอนที่ ตุ้ย-เกียรติกมล ล่าทา ได้ตำแหน่งสุดยอดนักล่าฝันซีซั่น 3 (เอเอฟ 3) เลยมีคะแนนสงสารเยอะ สิงโตตอบว่า ไม่เกี่ยว น่าจะเป็นเพราะการโชว์ของตนเองในแต่ละสัปดาห์มากกว่าจึงทำให้มาอยู่ตรงจุดนี้ เมื่อดีเจดังถามต่อว่าชอบโชว์ไหนมากที่สุด สิงโตตอบว่า ชอบมินิคอนเสิร์ต 3 คนสุดท้าย เพราะเป็นโชว์ที่คิดเองทำเองทั้งหมด เป็นสิ่งที่คิดไว้อยู่แล้ว ก็เลยภูมิใจนอกจากนี้ มดดำยังถามต่ออีกว่า มีคนค้างคาใจว่าสิงโตเขียนอะไรในจดหมายให้ แกรนด์-พรรณวรท ด้วยเศียรเกล้า ในวันที่ออกจากบ้านเดอะสตาร์ สิงโตเผยว่าเป็นจดหมายลาธรรมดา ไม่มีอะไร มดดำถามอีกว่า หลังจากนี้ทางเอ็กแซ็กท์ได้แจ้งว่าสิงโตจะมีอัลบั้มเป็นของตัวเองหรือได้เล่นละครหรือไม่ สิงโตตอบว่า ถ้าเรื่องอัลบั้มมีอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเรื่องละครเป็นเรื่องของอนาคต คงต้องดูอีกที และสิงโตปิดท้ายการสัมภาษณ์ครั้งนี้ว่า "ผมอยากขอบคุณทุกๆคนที่เป็นกำลังใจ ขอบคุณแฟนๆรายการเดอะสตาร์ทุกคนที่ติดตามพวกเรามาตลอดจนถึงเมื่อวานนี้ ก็ต้องขอบคุณมากๆครับ"

Read More

Chiangmai Zoo


จุดกำเนิดของสวนสัตว์เชียใหม่มีลักษณะที่แตกต่างจากสวนสัตว์ทั่วไปในประเทศไทย กล่าวคือเป็นการ เริ่มต้นด้วยการสะสมสัตว์ชนิดต่างๆ โดยชาวต่างประเทศคนหนึ่ง คือ นาย ฮาโรลด์ เมสัน ยัง มิชชั่นนารีอเมริกัน ผู้เข้ามาเป็นอาสาสมัครสอนการยังชีพในป่าให้แก่พวกทหารและตำรวจชายแดน ในช่วงสงครามเกาหลี ( พ.ศ.2493-2496 ) โดยอาศัยพื้นที่บ้านที่ตนเช่าอยู่คือ บ้านเวฬุวัน เชิงดอยสุเทพ ซึ่งเป็นของนาย กี นิมมานเหมินท์ ( พ.ศ.2431-2508 ) และนาง กิมฮ้อ นิมมานเหมินท์ ( พ.ศ. 2437-2524 ) เป็นสถานที่เริ่มต้น โดยเริ่มเปิดเป็นสวนสัตว์เล็กๆ ของเอกชนขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อประมาณพ.ศ.2495 โดยจ้างคนพื้นเมืองและชาวเขาจำนวนไม่มากนักช่วยดูแลส่วนที่เหลือ

จุดกำเนิดของสวนสัตว์เชียใหม่มีลักษณะที่แตกต่างจากสวนสัตว์ทั่วไปในประเทศไทย กล่าวคือเป็นการ เริ่มต้นด้วยการสะสมสัตว์ชนิดต่างๆ โดยชาวต่างประเทศคนหนึ่ง คือ นาย ฮาโรลด์ เมสัน ยัง มิชชั่นนารีอเมริกัน ผู้เข้ามาเป็นอาสาสมัครสอนการยังชีพในป่าให้แก่พวกทหารและตำรวจชายแดน ในช่วงสงครามเกาหลี ( พ.ศ.2493-2496 ) โดยอาศัยพื้นที่บ้านที่ตนเช่าอยู่คือ บ้านเวฬุวัน เชิงดอยสุเทพ ซึ่งเป็นของนาย กี นิมมานเหมินท์ ( พ.ศ.2431-2508 ) และนาง กิมฮ้อ นิมมานเหมินท์ ( พ.ศ. 2437-2524 ) เป็นสถานที่เริ่มต้น โดยเริ่มเปิดเป็นสวนสัตว์เล็กๆ ของเอกชนขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อประมาณพ.ศ.2495 โดยจ้างคนพื้นเมืองและชาวเขาจำนวนไม่มากนักช่วยดูแลเหตุผลของการสะสมสัตว์ชนิดต่างๆ ของนาย ฮาโรลด์ เมสัน ยัง จนสามารถจัดเป็นสวนสัตว์เอกชนขึ้นได้นั้น แม้ไม่ปรากฏหลักฐานชัด แต่คงเนื่องด้วยความรักเมตตาต่อสัตว์เป็นพื้นฐาน และเพื่อศึกษานิสัยอากัปกิริยาต่างๆ ของสัตว์ชนิดต่างๆ อย่างใกล้ชิดด้วยเพื่อประโยชน์ในการประกอบอาชีพ เป็นอาสาสมัครสอนการยังชีพในป่าให้แก่ทหารและตำรวจชายแดน ซึ่งต้องผจญกับสัตว์ป่านานาชนิดเสมอนาย ฮาโรลด์ เมสัน ยัง เป็นบุตรของมิชชันนารีชาวอเมริกัน เกิดที่รัฐฉาน ( Shan State ) ประเทศพม่าเคยทำงานในฐานะมิชชั่นนารีในรัฐฉาน ( Shan State ) ดินแดนของชาวไต ซึ่งอุดมด้วยสัตว์ป่านานาชนิดมาก่อน และเหตุผลที่ทำให้นาย ฮาโรลด์ เมสัน ยัง ต้องเข้ามาทำงานในฐานะอาสาสมัครสอนการยังชีพในป่าให้แก่ทหาร และตำรวจชายแดนในประเทศไทย ก็คงเนื่องด้วยพันธะที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกามีต่อรัฐบาลไทย ในการสนับสนุนทั้งทางด้านการเมือง การทหาร เศรษฐกิจ สังคม ฯลฯ อย่างเต็มที่เพื่อร่วมกันต่อต้านคอมมิวนิสต์ตาม สนธิสัญญาไทย-อเมริกัน 3 ฉบับ คือ ความตกลงทางการศึกษาและ วัฒนธรรมในเดือนกรกฎาคม 2493 ความตกลงร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคนิคในเดือนกันยายน 2493 และความตกลงทางการช่วยเหลือ ทางทหารในเดือนตุลาคม 2493 เป็นต้นมา เพราะปรากฎว่าหลังจากปี พ.ศ.2493 รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้จัดส่ง คณะที่ปรึกษา อาสาสมัคร และกำลังสนับสนุนด้านต่างๆ เข้าสู่ประเทศไทยจำนวนมากเฉพาะด้านทหารและตำรวจนั้น สหรัฐอเมริกาได้ส่งคณะที่ปรึกษาทางทหาร ( MAAG ) มาประจำประเทศไทยใน พ.ศ.2493 ต่อมาขยายเป็นหน่วย JUSMAG เพื่อช่วยยวางแผนการจัดกองพล การจัดกรมผสม จัดระบบ ส่งกำลังกองทัพบก ฯลฯ ขณะที่กองกำลังตำรวจขณะนั้นอยู่ภายใต้การนำของ พลตำรวจเอก เผ่า ศรีานนท์ก็ได้รับการขยายกำลังออกไปอย่างกว้างขวาง โดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ให้การสนับสนุนผ่านทางบริษัทซี ซัปพลาย ( Sea Supply Coporation ) การเข้ามาทำงานในประเทศไทยในฐานะอาสาสมัครสอนการยังชีพในป่าให้แก่ทหาร และตำรวจตระเวรชายแดนของนายฮาโรลด์ เมสัน ยัง ก็คงอยู่ในบริษัท ( Context ) ทางการเมืองดังกล่าวนี้ด้วยการสะสมสัตว์นานาชนิดของนาย ฮาโรลด์ เมสัน ยัง ภายในบริเวณบ้านเวฬุวันที่ตนเช่าอยู่นั้น คงมี มากขึ้นๆ และคงสร้างต้องอาศัยพื้นที่ในบริเวณบ้านเวฬุวันมากขึ้น คงทำให้พื้นที่อันสวยงามของบ้านเวฬุวัน เช่น สนามหญ้าหน้าบ้านถูกใช้เป็นที่เลี้ยงสัตว์ไปโดยปริยาย ผลการะทบที่สำคัญอีกประการคือกลิ่นต่างๆ จากสัตว์อบอวล สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อยู่อาศัยละแวกข้างเคียงเป็นประจำจากคำบอกเล่าของศาสตราจารย์ อัน นิมมานเหมินท์ ( พ.ศ.2460-ปัจจุบัน ) ทายาทคนหนึ่งของ นาย กี-นาง กิมฮ้อ นิมมานเหมินท์ ได้ขอให้ นาย ฮาโรลด์ เมสัน ยัง ผู้เช่นบ้านเวฬุวันย้ายสวนสัตว์ของเขาไปไว้ที่ ที่ดินอีกแปลงหนึ่งของนาย กี-นาง กิมฮ้อ นิมมานเหมินท์ ซึ่งอยู่เชิงดอยสุเทพเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่ที่ส่วน หนึ่งของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่คงโดยเหตุที่นาย ฮาโรลด์ เมสัน ยัง เป็นชาวอเมริกัน ประชาชนของประเทศที่ มีอิทธิพลทางการเมืองสูงยิ่งของโลก เขาจึงติดต่อขอที่ดินป่าสงวนเชิงดอสุเทพ ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่โดยตรง จนได้รับอนุมัติให้ใช้พื้นที่ป่าสงวนเชิงดอยสุเทพ ประมาณ 60 ไร่ เป็นที่ตั้งสวนสัตว์ของเอกชน เปิดบริการให้เข้าชมตั้งแต่วันจักรี 6 เมษายน พ.ศ.2500 จนกระทั่งนาย ฮาโรลด์ เมสัน ยัง ถึงแก่อนิจกรรม ใน พ.ศ.2518 องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้พิจารณาเห็นคุณค่าของสวนสัตว์ของนาย ฮาโรลด์ เมสัน ยัง ทั้งในฐานะเป็นแหล่ง พักผ่อนศึกษาสัตว์ของประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวแหล่งหนึ่งตามโครงการปรับปรุงดอยสุเทพเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ จึงรับกิจการสวนสัตว์ของนาย ฮาโรลด์ เมสัน ยัง ไว้ในความดูแลขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จนกระทั่ง พ.ศ.2520 จึงโอนเข้าสังกัดองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ วันที่ 16 มิถุนายน 2520 เป็นต้นมา เนื่องนับ ถึง 16 มิถุนายน 2530 สวนสัตว์เชียงใหม่ก็มีอายุราชการครบ 10 ปีเต็ม ในรอบทศวรรษที่ผ่านมา สวนสัตว์เชียงใหม่ได้ขยายพื้นที่จากเดิมที่จังหวัดเชียงใหม่อนุมัติให้นาย ฮาโรลด์ เมสัน ยัง จัดตั้งสวนสัตว์ประมาณ 60 ไร่ ได้รับการขยายเป็น 130 ไร่และตั้งแต่ปี พ.ศ.2526 หลังการฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี เป็นต้นมา สวนสัตว์เชียงใหม่ก็ได้รับความเห็นชอบจากกรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะรัฐมนตรีให้ขยายพื้นที่บริเวณเชิงดอยสุเทพ เพิ่มเติมอีกประมาณ 500 ไร่ ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาสวนสัตว์ ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน จำนวนหนึ่ง โดยมี ศาสตราจารย์ อัน นิมมานเหมินท์ เป็นประธานดำเนินงานวางผังหลักกำหนดแนวทางพัฒนาสวนสัตว์เชียงใหม่ ต่อไปในอนาคตอย่างน่าสนใจยิ่งสวนสัตว์เชียงใหม่ในทศวรรษที่สอง คงกลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจทีผสมผสานระหว่าง ธรรมชาติ กับฝีมือมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ และเป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติวิทยาทั้งประเภทของจริงและของในพิพิธภัณฑสัตว์ ที่น่าติดตามยิ่งอย่างไรก็ดี ในทศวรรษที่ผ่านมามีประเด็นที่ใคร่ขอตั้งข้อสังเกตดังนี้ประการแรก จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ทั้งประเภทตำนาน จารึก และภาพถ่ายทางอากาศยืนยันชัดว่าพื้นที่ส่วนหนึ่งของสวนสัตว์เชียงใหม่คือส่วนหนึ่งของเวียงเจ็ดสิน เวียงโบราณรูปวงกลมที่สร้างขึ้นในสมัยพญาสามฝั่งแก่น กษัตริย์แห่งราชวงค์มังราย ลำดับที่ 8 ( พ.ศ.1945-1984 ) ร่องรอยคูน้ำ คันดินบางส่วนก็ยังปรากฎอยู่ในปัจจุบันซากอิฐจำนวนไม่น้อยยังคงปรากฎทั่วไปในบริเวณสวนสัตว์เชียยงใหม่ โดยเฉพาะบนเนินเนินเหนือที่เลี้ยงช้าง เป็นกองอิฐก้อนใหญ่มาก เป็นร่องรอยให้สามารถสันนิษฐานได้ว่าเป็นโบราณสถานที่เกี่ยวข้องกับทางศาสนาสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางศิลปวัฒนธรรมที่บรรพชนล้านนาได้สร้างสมไว้ หากได้รับการดูแล ไม่ทำลาย และใช้ประโยชน์เชิงสร้างสรรค์ เช่น ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เขียนป้ายแนะนำเรื่องราวบางประการ เกี่ยวกับกองอิฐเหล่านั้นแบบง่ายๆ คนทุกเพศ ทุกวัยที่เข้าไปสวนสัตว์เชียงใหม่ก็จะได้รับความรู้เกี่ยวกับอดีตบางประการของท้องถิ่นที่เขาอยู่ ที่เขาเยือนแถมกลับบ้านบอกเล่าลูกหลานผู้ใกล้ชิดต่อๆ กัน หากสวนสัตว์เชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพอจะดำเนการอนุรักษ์มรดก ทางวัฒธรรมที่หลงเหลืออยู่ บางส่วนในบริเวณสวนสัตว์เชียงใหม่ได้ ก็คงนับเป็นหน่วยราชการเพียงแห่งแรกและแห่งเดียวในแถบเชิงดอยสุเทพที่คิดคำนึงถึง "เรื่องพรรค์นี้"ประการสอง โดยเหตุที่ นาย ฮาโรลด์ เมสัน ยัง เป็นผู้ริเริ่มสะสมสัตว์นานาชนิดจนสามารถจัดตั้งสวนสัตว์ ส่วนตัวอันเป็นรากฐานของสวนสัตว์เชียงใหม่ในปัจจุบัน แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าข้อมูลเกี่ยวกับนาย ฮาโรลด์ เมสัน ยัง เท่าที่ทราบกันในปัจจุบันมีไม่มากนักส่วนใหญ่อยู่ในความทรงจำของผู้ร่วมสมัยที่เคยเห็นนาย ฮาโรลด์ เมสัน ยัง หรือเคยทำงานร่วมกัน เช่นหัวหน้าบำรุงสถานีรักษาสัตว์คนปัจจุบัน แม้เรื่องรวบรวมประวัติบุคคลจะไม่ใช่หน้าที่ของสวนสัตว์ แต่เนื่องจากนายฮาโรลด์ เมสัน ยัง เกี่ยวข้องกับสวนสัตว์เชียงใหม่โดยตรง หากสวนสัตว์เชียงใหม่ได้ขอร้อง ให้ผู้ร่วมสมัยกับนายฮาโรลด์ เมสัน ยัง รวบรวมเรื่องราวบางประการเกี่ยวกับนาย ฮาโรลด์ เมสัน ยัง เท่าที่จะสามารถกระทำได้ คงจะเป็นประโยชน์ทางการศึกษาแก่อนุชนผู้สนใจอดีตของสวนสัตว์เชียงใหม่ไม่มากก็น้อยประการสุดท้าย ในฐานะผู้ปกครองที่สมัครใจหาลูกไปสวนสัตว์เชียงใหม่เป็นประจำ ใคร่ขอตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความปลอดภัยบางประการเช่น(1) ระบบจราจรที่เจ้าหน้าที่สวนสัตว์เองปฎิบัติทั้งในขณะนำอาหารสัตว์และสัญจรไปมาค่อนข้างรวดเร็วเกินกว่าสภาพพื้นที่ของสวนสัตว์ เส้นทางที่ประสบเหตุบ่อยครั้งคือ ทางลาดเลียบรั้วมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งมีสัตว์ที่เด็กๆ ชอบมากเช่น ฮิปโปฯ ยีราฟ ฯลฯ ลำพังผู้ปกครองที่ต้องระมัดระวังลูกมิให้ล้มลงในทางลาดก็คงเพียงพอแล้ว ไม่ควรให้ต้องพะวงยานพาหนะนานาชนิดที่ค่อนข้างรวดเร็ว ราวกับอยู่ใจกลางเมืองเลย คงจะต้องมีการทำความเข้าใจกันกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป(2) ระบบลวดหนาม ในพื้นที่บางส่วนทางสวนสัตว์เชียงใหม่คงไม่ประสงค์ให้คนเข้าไป และเท่าที่สังเกตมักใช้ลวดหนามกั้น ซึ่งอาจมีเหตุผลบางประการ แต่ในด้านความปลอดภัยของเด็กๆ และที่บริเวณบางแห่งเช่น เส้นทางเดินจากกรงนกข้างฮิปโปขึ้นไป ร้านเครื่องดื่มเป็นรั้วลวดหนาม ระดับใบหน้าเด็กวัย 3-4 ขวบพอดี น่าจะได้มีการเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมก่อนเกิดปัญหาขึ้นบทความนี้มุ่งหมายเพียงเพื่อประโยชน์ทางการศึกษาเป็นหลัก ด้วยเห็นว่าจุดเด่นประการหนึ่งของสวนสัตว์เชียงใหม่ คือ ความเป็นมาก่อนหน้าได้รับการสถาปนาเป็น หน่วยงานสังกัดองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เพราะหากนับถึงการเปิดบริการครั้งแรกของสวนสัตว์นาย ฮาโรลด์ เมสัน ยัง ที่บ้านเวฬุวัน เมื่อพ.ศ.2495 ถึงปัจจุบันก็เป็นเวลาถึง 35 ปีแล้ว และนับเฉพาะเมื่อสวนสัตว์เชียงใหม่เปิดบริการในสถานที่ปัจจุบัน เมื่อ พ.ศ.2500ก็เป็นเวลา 30 ปีเต็ม ความสืบเนื่องอันยาวนานพอสมควรเหล่านี้แม้จะมีผู้รู้อยู่ไม่น้อย แต่ก็ยังไม่แพร่หลายนัก จึงคิดว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจทั่วไป ขณะเดียวกันในฐานะผู้ปกครองที่สมัครใจชักชวนลูกเที่ยวสวนสัตว์เชียงใหม่เป็นประจำ ได้พบข้อน่าสังเกตบางประการ จึงถือโอกาสนำเสนอด้วย โดยพยายามเข้าใจถึงเงื่อนไขต่างๆ เช่น ภาระหน้าที่ของสวนสัตว์ งบประมาณ ฯลฯ ด้วยความหวังว่า จะเป็นประโยชน์แก่สวนสัตว์เชียงใหม่ และผู้เข้าชมสวนสัตว์เชียงใหม่ทั่วไปพื้นที่สวนสัตว์เชียงใหม่ 531 ไร่ แบ่งการพัฒนาและปรับปรุงตามแผนผังหลัก
1. พื้นที่สวนสัตว์ชั้นนอก
100 ไร่
2. พื้นที่สวนสัตว์ใหม่
170 ไร่
3. พื้นที่สวนสัตว์เปิด
100 ไร่
4. พื้นที่พักแรม
100 ไร่
5. พื้นที่เพาะพันธุ์สัตว์
61 ไร่
บริเวณที่ติดกับสวนสัตว์เชียงใหม่
ทิศเหนือ
จดน้ำตกห้วยแก้วและถนนห้วยแก้ว
ทิศใต้
จดสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 และศูนย์เกษตรภาคเหนือ
ทิศตะวันออก
จดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ทิศตะวันตก
จดวนอุทยานสุเทพ-ปุย
ที่ตั้งของสวนสัตว์เชียงใหม่สวนสัตว์เชียงใหม่ตั้งอยู่เชิงดอยสุเทพ เลขที่ 100 ถนนห้วยแก้ว ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียใหม่ 50200หมายเลขโทรศัพท์ (053)221179, 222283 สามารถเข้าชมได้ 2 เส้นทางคือ1. เส้นทางถนนห้วยแก้ว เป็นเส้นทางขึ้นสู่วัดพระธารฃตุดอยสุเทพวรมหาวิหาร สวนสัตว์เชียงใหม่ตั้งอยู่ด้านซ้าย มือห่างจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพียง 800 เมตร เท่านั้น2. เส้นทางถนนสุเทพ ผ่านสถานที่สำคัญคือโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่, คณะเกษตรศาสตร์และคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, วัดอุโมงค์, วัดฝายหิน สวนสัตว์เชียงใหม่ตั้งอยู่ทางขวามือก่อนถึง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7

หมีแพนด้า
ลักษณะเด่นลักษณะที่โดดเด่นของ หมีแพนด้า คือมีขนสีดำและสีขาว บริเวณหัว คอ ตะโพก จะมีสีขาว ส่วนรอบๆตาทั้งสองข้าง หู ไหล่ ขาหน้า และขาหลังจะมีสีดำ หัวของหมีแพนด้า จะใหญ่เมื่อเทียบกับสัดส่วนของตัว กว่าหมีชนิดอื่นๆ เท้าหน้ามี 6 นิ้ว พร้อมที่จะกางกว้างออกเมื่อปะทะกัน หรือปีนต้นไม้ขนาดหมีแพนด้าเพศผู้ขนาดตัวโตเต็มที่ สูงประมาณ 160-190 ซม. จะสูงกว่าเพศเมียเล็กน้อย มีขาหน้าที่แข็งแรง และหนัก 85-125 กก. เพศเมียหนัก 70-100 กก. ลูกหมีเพิ่งคลอดหนักเพียง 85-140 กรัมถิ่นที่อยู่หมีแพนด้าจะอาศัยอยู่ที่ระดับสูง 1200-3500 เมตร ในป่าเขา ซึ่งมีต้นไม้ไผ่ขึ้นหนาแน่น
การกระจายจะพบหมีแพนด้าเพียงตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน แนวเขตที่ราบสูงของ ทิเบต ใน 6 พื้นที่เล็กๆ ของจังหวัด Sichuan Gansu และ Shaanzi รวมแล้วมีพื้นที่เพียง 14000 ตร.กม.การสื่อสารหมีแพนด้าจะใช้กลิ่น อะซิติค ที่หลั่งออกมาจากบริเวณ ต่อมที่อยู่ใกล้ๆกับอวัยวะสืบพันธุ์ ไว้ตามต้นไม้ ก้อนหิน และใช้เสียงในการกำหนดขอบเขต โดยส่วนมากจะเป็นหมีเพศผู้ ส่วนการใช้เสียงของหมีเพศเมีย จะมีในช่วงที่จะผสมพันธุ์อาหารอาหารของหมีแพนด้า 99% จะมาจากต้นไผ่ ตัวโตเต็มที่ จะกิน 12-15 กก./วัน แต่ถ้าเป็น ต้นหรือใบอ่อนของต้นไผ่ หมีแพนด้าสามารถกินได้ถึง 38 กก/วัน ซึ่งหนักถึง 40%ของน้ำหนักตัวมันเอง และอาหารอีกที่เหลือ จะเป็นพืชชนิดอื่นๆ รวมทั้งเนื้อด้วย ส่วนมาก หมีแพนด้าจะกินอาหารที่พื้น บางครั้งถึงจะปีนขึ้นไป กินอาหารบนต้นไม้
การสืบพันธุ์หมีแพนด้าพร้อมที่จะขยายพันธุ์เมื่ออายุ 4.5-6.5 ปี จะจับคู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ต้นเดือน มี.ค.-พ.ค.เพศเมียมีช่วงเวลาพร้อมที่จะผสมพันธุ์ 1-3 สัปห์ดา และ จะยอมให้มีการผสม 2-3 วันเท่านั้น จำนวนลูกที่คลอดออกมา มีเพียง 1-3 ตัว โดยปกติจะมีชีวิตรอดเพียงตัวเดียว ลูกหมีจะหย่านมเมื่ออายุ 9 เดือน แม่หมีแพนด้าจะคอยดูแลลูกตน จนกว่าจะถึง 18 เดือน
ระบบสังคมส่วนมากหมีแพนด้าจะอาศัยอยู่เพียงลำพัง ตัวเดียว ยกเว้นหมีแพนด้าแม่ลูกอ่อน ในช่วงฤดูกาลให้นมลูก หมีเพศผู้จะต่อสู้กัน เพื่อแย่งเข้าไป หากลุ่มแม่หมี อาณาเขตของหมีเพศเมีย ปกติแล้ว จะอาศัยซึ่งกันและกัน อาณาเขต จะซ้อนทับกันเป็นบางครั้ง ในขณะที่หมีแพนด้าเพศผู้ จะมีอาณาเขตที่กว้างครอบคลุมหมีเพศเมียทั้งหมด

Read More

วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2552

น้องแมว


แมว (ชื่อวิทยาศาสตร์: Felis silvestris catus) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อยู่ในตระกูล Felidae ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับสิงโตและเสือดาว ต้นตระกูลแมวมาจากเสือไซบีเรียน ซึ่งมีช่วงลำตัวตั้งแต่จมูกถึงปลายหางยาวประมาณ 4 เมตร แมวที่เลี้ยงตามบ้าน จะมีรูปร่างขนาดเล็ก ขนาดลำตัวยาว ช่วงขาสั้นและจัดอยู่ในกลุ่มของประเภทสัตว์กินเนื้อเป็นอาหาร มีเขี้ยวและเล็บแหลมคมสามารถหดซ่อนเล็บได้เช่นเดียวกับเสือ สืบสายเลือดมาจากแมวป่าที่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งลักษณะบางอย่างของแมวยังคงพบเห็นได้ในแมวบ้านปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นแมวพันธุ์แท้หรือแมวพันธุ์ทางแมวเข้ามาเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน ซึ่งจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของแมวคือการทำมัมมี่แมวที่ค้นพบในสมัยอียิปต์โบราณ หรือในพิพิธภัณฑ์อังกฤษในกรุงลอนดอน มีการแสดงสมบัติที่นำออกมาจากปิรามิดโบราณแห่งอียิปต์ ซึ่งรวมถึงมัมมี่แมวหลายตัว ซึ่งเมื่อนำเอาผ้าพันมัมมี่ออกก็พบว่า แมวในสมัยโบราณทุกตัวมีลักษณะใกล้เคียงกัน คือเป็นแมวที่มีรูปร่างเล็ก ขนสั้นมีแต้มสีน้ำตาล มีความคล้ายคลึงกับพันธุ์ในปัจจุบัน ที่เรียกว่าแมวอะบิสสิเนียน

ส่วนที่เหลือ ลักษณะเฉพาะ
แมวเป็น
สัตว์เลือดอุ่นที่มีรูปร่างเพรียว มีหางยาว และบังคับหางได้ มีใบหน้าที่เรียวและโครงหน้าแหลมเช่นเดียวกับเสือและสัตว์อื่น ๆ ในวงศ์เดียวกัน เป็นสัตว์ที่มีเล็บแหลมคม และมีตาที่สามารถมองเห็นในเวลากลางคืนได้ดี แมวจะนอนหลับในเวลากลางวัน และตื่นในเวลากลางคืน
ความสำคัญทางเศรษฐกิจ
แมวเป็น
สัตว์เลี้ยงคลายเหงาที่นิยมมากชนิดหนึ่งใกล้เคียงกับสุนัข แมวบางสายพันธุ์เช่น แมวสีสวาด และแมววิเชียรมาศ เป็นแมวไทยที่สวยงามเป็นที่ชื่นชอบทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในฐานะประเทศที่เป็นต้นกำเนิดของสายพันธุ์ มีการเลี้ยงเพื่อเพาะพันธุ์เพื่อขาย ถือเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญ นอกจากนี้อุจจาระของแมวสามารถนำมาทำปุ๋ยได้
แมวพันธุ์ต่าง ๆ
แมวในโลกนี้มีมากมายหลายพันธุ์ โดยเฉพาะแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงไม่นับรวมสัตว์ตระกูลแมว พวก
เสือ แมวดาว แมวป่า หรือ สิงโต แมวเลี้ยง หรือที่เราเรียกว่า Domestic cat นั้นมีวิวัฒนการมาจากแมวป่าในธรรมชาติจากหลายภูมิภาคของโลก ชื่อเรียกพันธุ์แมวที่แตกต่างกันที่เรียกกันทุกวันนี้ เช่น เปอร์เซีย แมวสยาม บาลิเนส อะบิสสิเนียน และโซมาลี นั้น แสดงถึงถิ่นกำเนิดที่แสดงถึงภูมิศาสตร์ที่เขาถือกำเนิดมา ในการจัดนิทรรศการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศอังกฤษเมื่อปีคริสศักราช 1871 ถือเป็นการเริ่มต้นในการนำเสนอพันธุ์แมวในระดับนานาชาติ ทำให้ผู้สนใจในแมวมีความตื่นตัว แต่การแสดงในครั้งนั้นส่วนใหญ่เป็นแมวเปอร์เซียและแมวขนสั้นเป็นหลัก
การจัดจำแนกแมว
ดูเพิ่มที่
รายชื่อสายพันธุ์แมว
โดยทั่วไปมีการแบ่งพันธุ์แมวออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่ๆ คือ แมวขนยาว (longhaired cat) และแมวขนสั้น (shorthaired cats) การแบ่งพันธุ์ด้วยวิธีนี้ทำให้จำแนกแมวออกได้ตามลักษณะพันธุ์ที่จำเพาะต่างๆ กัน การจัดจำแนกแมวในยุโรปและสหรัฐอเมริกามีการกำหนดมาตรฐานของพันธุ์แมวที่เป็นที่ยอมรับกัน ทั้งนี้ลักษณะมาตรฐานของพันธุ์ก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยๆ การใช้ชื่อเรียกพันธุ์แมวที่แสดงถึงลักษณะของพันธุ์ที่จำเพาะมีความแตกต่างกันระหว่างในยุโรปและสหรัฐอเมริกา และมีบางพันธุ์มีการจัดจำแนกเฉพาะต่างหากในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แมวมีมากมายหลายพันธุ์
แมวไทย
ดูบทความหลักที่ แมวไทย
คนไทยน้อยคนนักที่จะรู้จักว่าแมวไทยจริงๆนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร ทว่าแมวไทยพันธุ์แท้นั้นกลับไปมีชื่อเสียงโด่งดังที่ต่างประเทศมากกว่าในเมืองไทย ทั้งยังได้รับการยกย่องว่าเป็นพันธุ์อันเลิศพันธุ์หนึ่งในโลก และมีความมหัศจรรย์ยิ่งกว่าพันธุ์ใดๆ เมื่อปี
พ.ศ. 2427 ชาวอังกฤษชื่อนายโอเวน กูลด์ (Owen Gould) กงสุลอังกฤษประจำกรุงเทพฯ ได้นำแมวไทยคู่หนึ่งจากประเทศไทยไปฝากน้องสาวที่อังกฤษ อีกหนึ่งปีต่อมา แมวคู่นี้ถูกส่งเข้าประกวดในงานประกวดแมวที่คริสตัลพาเลซ กรุงลอนดอน ปรากฏว่าชนะเลิศได้รางวัลที่หนึ่ง ทำให้ชาวอังกฤษพากันแตกตื่นเลี้ยงแมวไทยกันจนมีสโมสรแมวไทยเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2443 ชื่อว่า The Siamese Cat Clubs ต่อมาในปี พ.ศ. 2471 ได้มีการตั้งสมาคมแมวไทยแห่งจักรวรรดิอังกฤษขึ้น หรือ The Siamese Cat Society of the British Empire ขึ้นมาอีกสมาคมหนึ่ง
แมวที่นายโอเวน กูลด์ นำไปจากประเทศไทยนั้น มีแต้มสีครั่งหรือน้ำตาลไหม้เก้าแห่ง คือหน้า หูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ หาง และอวัยวะเพศ ซึ่งถือว่าเป็นแต้มสีที่อยู่ในบริเวณที่เหมาะสมและไม่เลอะเทอะเหมือนแมวพันธุ์อื่น และเมื่อนำแมวไทยไปผสมกับแมวพันธุ์อื่น จะได้แต้มสีตามร่างกายในตำแหน่งเดียวกัน แต่รูปร่างจะไม่สง่างามเท่า และอุปนิสัยจะไม่เหมือนกันด้วย ซึ่งแมวไทยพันธุ์นี้เป็นพันธุ์แรกที่ชาวต่างชาติรู้จัก จึงมักเรียกกันทั่วไปว่า Siamese Cat หรือ Seal Point ส่วนในสมุดข่อยโบราณของไทยให้ชื่อแมวไทยลักษณะนี้ว่า "
แมววิเชียรมาศ" คุณสมบัติอันโดดเด่นของแมวไทยอีกประการหนึ่งก็คือ อุปนิสัยที่มีความฉลาด รักบ้าน รักเจ้าของ เป็นตัวของตัวเอง รู้จักประจบ และที่สำคัญคือ การรักอิสระเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งถือว่าเป็นบุคลิกประจำตัว และทำให้แมวไทยเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมอย่างสูงไปทั่วโลก และเป็นที่น่าสังเกตว่า การผสมพันธุ์ระหว่างแมวไทยและแมวต่างชาตินั้น แม้จะได้แมวที่มีลักษณะและสีเหมือนแมวไทย แต่จะไม่ได้อุปนิสัยตามอย่างแมวไทยไปด้วย นอกจากว่าจะเป็นการผสมระหว่างแมวไทยด้วยกันเองเท่านั้น
ใน
สมุดข่อยโบราณได้กล่าวถึงแมวไทยไว้ถึง 23 ชนิด ซึ่งเป็นแมวดี (แมวให้คุณ) 17 ชนิด และแมวร้าย (แมวให้โทษ) 6 ชนิด ซึ่งในปัจจุบันได้สูญพันธุ์ไปแล้ว 13 ชนิด เหลือเพียง 4 ชนิดเท่านั้นในปัจจุบัน ได้แก่แมววิเชียรมาศ แมวโคราช แมวศุภลักษณ์ และแมวโกญจา ส่วนแมวขาวมณีนั้นแม้จะไม่ได้บันทึกอยู่ในสมุดข่อยก็ตาม แต่ก็ถือเป็นแมวไทย

Read More

ไอศครีมผลไม้


”ไอศครีม”

ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยก็ยังเป็นของโปรดของเด็ก ๆ รวมถึงผู้ใหญ่หลาย ๆ คน ซึ่งต่อให้เป็นช่วงฤดูหนาว แต่ด้วยรสชาติหอมหวาน อร่อยชื่นใจ ไอศครีมก็ยังขายได้ขายดี โดยไอศครีมนั้นก็มีมากมายหลายชนิด รวมถึง “ไอศครีมผลไม้” ที่ไม่มีส่วนผสมของนม ไข่ ไขมันจากสัตว์ ซึ่งเป็นทางเลือกของผู้ที่ชอบทานไอศครีม แต่ห่วงสุขภาพ-ทรวดทรงวันนี้ทีมงาน “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลไอศครีมผลไม้มาฝากกัน....เมื่อเร็ว ๆ นี้ทีมงาน “ช่องทางทำกิน” ร่วมเดินทางไปกับคณะของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ไปที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อไปดูความสำเร็จของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ ส่วนที่เหลือ
น้อย-ดารา วงศ์วรรณ อายุ 42 ปี เจ้าของร้านมิสซิสไอซี่ (MRS.ICY) ที่ผลิตและขาย “ไอศครีมผลไม้ไขมันต่ำ” ซึ่งมีกว่า 43 รสชาติ โดยส่วนใหญ่จะใช้ผลไม้ในท้องถิ่น และสมุนไพรต่าง ๆ ก็เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ทีมงานได้ไปพบคุณน้อยเล่าว่า เรียนจบปริญญาตรีสาขาบัญชีจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็เข้าทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง แต่ก็ได้เรียนรู้ที่จะนำผลไม้ต่าง ๆ มาแปรรูปด้วย เพราะทางบ้านนั้นมีสวนผลไม้อยู่ ในตอนแรกก็ทำเป็นแยม โดยทำเป็นงานอดิเรกไว้รับประทานในหมู่ญาติและเพื่อน ๆ ต่อมาจึงทำขายด้วย ทำเป็นน้ำผลไม้ออกขายเพิ่มเติมจากแยม ซึ่งก็ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี โดยผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะไม่มีการใส่สารกันบูด สารปรุงแต่ง ทั้งแยมผลไม้และน้ำผลไม้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพื่อน ๆ ก็เลยเชียร์ให้ทำ “ไอศครีมผลไม้” ด้วย ซึ่งตอนแรกก็ไม่อยากทำเพราะไม่มีความรู้เรื่องไอศครีมเลย แต่ด้วยแรงเชียร์ก็เริ่มที่จะศึกษาด้วยตัวเอง โดยมีแนวความคิดว่าจะต้องทำเป็น “ไอศครีมเพื่อสุขภาพ” ไอศครีมที่ทำจะต้องไม่มีส่วนผสมของนม ไข่ ไขมันจากสัตว์ ไม่ใส่สารปรุงแต่ง สารกันบูด และจะต้องไม่หวานมาก ทดลองทำ พัฒนาอยู่ประมาณ 1 ปี ก็ได้สูตรไอศครีมผลไม้ไขมันต่ำ ซึ่งในการทำระยะแรก ๆ นั้นมีอยู่ 20 รสชาติ นำทั้งผลไม้ท้องถิ่นมาทำ ไม่ว่าจะเป็น เสาวรส, มะเกี๋ยง, มะนาว, สตรอเบอรี่, มะม่วง, กระเจี๊ยบ ฯลฯ รวมถึงใช้พืชสมุนไพร ไม่ว่าจะเป็น ขิง, ตะไคร้, สะระแหน่, งาดำ ฯลฯ มาพัฒนาดัดแปลงทำเป็นรสชาติไอศครีม จนเดี๋ยวนี่รสชาติไอศครีมของร้านมิสซิสไอซี่มีกว่า 43 รสชาติคุณน้อยบอกอีกว่า อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมีในการทำไอศครีมขายหลัก ๆ ก็ได้แก่ เครื่องปั่นไอศครีม ที่เหลือก็จะเป็นอุปกรณ์ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นหม้อ เครื่องตวง เตาแก๊ส ทัพพี ฯลฯสำหรับเครื่องปั่นไอศครีมนั้น ถ้าเป็นราคาเครื่องที่สั่งทำพิเศษของร้านมิสซิสไอซี่ ราคาอยู่ที่เครื่องละ 200,000 บาท แต่ถ้าเป็นเครื่องเล็ก ๆ ที่มีขายอยู่แล้ว เครื่องละ 6,000 บาทก็พอใช้ได้แล้ว สำหรับผู้ที่เริ่มลงทุนใหม่ ส่วนวัตถุดิบที่ต้องใช้ก็มีผลไม้ต่าง ๆ พืชสมุนไพร น้ำสะอาด น้ำตาล และไขมันจากพืช (น้ำมันมะกอก)ขั้นตอนการทำไอศครีม คุณน้อยแจกแจงว่า เริ่มจากการนำผลไม้หรือพืชสมุนไพรที่ต้องการจะทำไอศครีมรสชาตินั้น ๆ มาทำการแปรรูป ผ่านกรรมวิธีเพื่อที่จะได้ออกมาในรูปของน้ำ ใช้น้ำผลไม้หรือน้ำสมุนไพรที่ได้ประมาณ 80% ผสมน้ำสะอาดประมาณ 5% แล้วทำการต้มเพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรค ระหว่างต้มก็ใส่เนื้อของผลไม้นั้น ๆ ประมาณ 14% ใส่ไขมันจากพืชคือน้ำมันมะกอก 1% และน้ำตาลเล็กน้อย ผสมลง ไปต้มแค่พอเดือด จากนั้นก็ยกลงพักไว้ผลไม้ที่นำมาทำไอศครีมควรใช้ผลไม้ที่มีความแก่จัด เวลาทำออกมาจะได้รสชาติ และกลิ่นของผลไม้นั้น ๆ อย่างเต็มที่ขั้นตอนต่อไป หลังจากน้ำผลไม้หรือน้ำสมุนไพรที่ผ่านการต้มฆ่าเชื้อโรคเย็นสนิทแล้ว ก็นำไปปั่นในเครื่องปั่นไอศครีม ใช้เวลาปั่นประมาณ 15-20 นาที สังเกตดูพอเนื้อเนียนก็ใช้ได้ หลังจากปั่นจนได้ที่ก็ทำการเทจัดเก็บไว้ในกล่องที่เตรียมไว้ จากนั้นก็นำไปทำกรรมวิธีต่อไป คือการบ่ม ซึ่งการบ่มก็คือการนำไปแช่เก็บไว้เพื่อเป็นการทำให้เนื้อไอศครีมได้เซทตัว ใช้เวลาบ่มประมาณ 6 ชั่วโมงก็จะใช้ได้ไอศครีมผลไม้ไขมันต่ำที่ไม่มีการใส่สารกันบูดนี้ สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานประมาณ 1 ปี แต่ต้องอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม คือ -18 องศาเซลเซียสการขาย “ไอศครีมผลไม้ไขมันต่ำ” ของร้านมิสซิสไอซี่ คุณน้อยบอกว่า มีทั้งขายเป็นแพ็ก ๆ ละ 3 กก. ราคา 240 บาท/กก. หรือแพ็กละ 720 บาท และขายแบบเป็นถ้วย ๆ ละ 20 บาท







Read More


อุทยานแห่งชาติภูกระดึงข้อมูลทั่วไปสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ก่อนที่ท่านและคณะจะเดินทางขึ้นเขาขอให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตามลำดับ ดังนี้
1. ติดต่อขอเช่าเต็นท์กับเจ้าหน้าที่บ้านพัก และสำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับอนุญษตให้ใช้บ้านพักหรือเต็นท์จากกรมอุทยานแห่งชาติมาแล้วกรุณาแจ้งให้เจ้าหน้าที่งานบ้านพัก ณ อาคารติดต่อที่พัก ซุ้มหมายเลข 1 ทราบ2. สำหรับนักท่องเที่ยวที่นำเต็นท์มาเอง ติดต่อชำระค่าขอใช้สถานที่กางเต็นท์ในอัตรา 30 /คน/คืน ณ อาคารติดต่อที่พัก ซุ้มหมายเลข 2 และในกรณีที่เต็นท์ทางอุทยานแห่งชาติ
ส่วนที่เหลือ ภูกระดึงเต็มท่านจะต้องชำระค่าขอใช้สถานที่กางเต็นท์ในอัตราข้างต้นเช่นเดียวกัน และท่านสามารถติดต่อเช่าเต็นท์ได้บนยอดเขา
3. สำหรับนักท่องเที่ยวท่านใดหรือคณะใด นำบรรจุภัณฑ์ต่างมา เช่นขวดแก้ว, ขวดพลาสติก, ซองพลาสติก,กล่องกระดาษ หรือ ที่ย่อยสลายเองตามธรรมชาติไม่ได้หรือต้องใช้เวลาในการย่อยสลายนาน ท่านจะต้องติดต่อมัดจำบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ตามที่ทางอุทยานแห่งชาติภูกระดึงกำหนดไว้ แล้ววันลงเขาให้ท่านนำบรรจุภัณฑ์ดังกล่าวที่เป็นขยะมารับเงินมัดจำนั้นคืน พร้อมทั้งทางอุทยานแห่งชาติภูกระดึงจะออกใบประกาศเกียรติคุณให้ท่านเพื่อแสดงว่าท่านเป็นผู้ที่เสียสละและบำเพ็ญประโยชน์ต่ออุทยานแห่งชาติภูกระดึง ซุ้มหมายเลข 3
4. ติดต่อจ้างหาบสัมภาระได้ที่อาคารสัมภาระในอัตราราคากิโลกรัมละ 10 บาท ซุ้มหมายเลข 4
5. ชำระค่าธรรมเนียมเดินขึ้นเขาได้ที่ซุ้มจำหน่ายบัตรค่าธรรมเนียม ในอัตราเด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 20 บาท ชาวต่างประเทศ เด็ก 100 บาท ผู้ใหญ่ 200 บาท ในกรณีที่เป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา เมื่อยืนประจำตัวทางอุทยานแห่งชาติ จะเก็บค่าธรรมเนียมขึ้นเขาในอัตรา 10 บาท ผู้สูงอายุตั้งแต่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปจะต้องแสดงบัตรประจำตัวของท่านเพื่อไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมขึ้นเขา ซุ้มหมายเลข 5
ลักษณะภูมิประเทศ สภาพทั่วไปของอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เป็นภูเขาหินทรายยอดตัดอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของที่ราบสูงโคราช ใกล้กับด้านลาดทิศตะวันออกของเทือกเขาเพชรบูรณ์ ลักษณะโครงสร้างทางธรณีของภูกระดึงเกิดขึ้นในมหายุค Mesozoic เป็นหินในชุดโคราช ประกอบด้วยชั้นหินหมวดหินภูพานหมวดหินเสาขัว หมวดหินพระวิหาร และหมวดหินภูกระดึง พื้นที่ส่วนใหญ่ของภูเขาอยู่ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางระหว่าง 400-1,200 เมตร มีพื้นที่ราบบนยอดเขากว้างใหญ่คล้ายรูใบบอน ประกอบด้วยเนินเตี้ยๆ ยอดสูงสุดคือ ภูกุ่มข้าว สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,350 เมตร สภาพพื้นที่ราบบนยอดภูกระดึงมีส่วนสูงอยู่ทางด้านตะวันตกและตะวันออกเฉียงใต้ พื้นที่ค่อยๆ ลาดเทลงมาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทำให้ลำธารสายต่างๆ ที่เกิดจากแหล่งน้ำบนภูเขาไหลไปรวมกันทางด้านนี้ เป็นแหล่งต้นน้ำของลำน้ำพอง ซึ่งหล่อเลี้ยงเขื่อนอุบลรัตน์และเขื่อนหนองหวาย ในจังหวัดขอนแก่นลักษณะภูมิอากาศ ภูมิอากาศของอุทยานแห่งชาติภูกระดึงบริเวณที่ระดับต่ำตามเชิงเขา มีสภาพโดยทั่วไปใกล้เคียงกับบริเวณอื่นๆ ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม ฝนตกชุกที่สุดระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน อุณหภูมิเฉลี่ยรายปี 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดในเดือนมกราคม และอุณหภูมิสูงสุดในเดือนเมษายน สภาพอากาศทั่วไปบนยอดภูกระดึง แตกต่างจากสภาพอากาศในที่ราบต่ำเป็นอย่างมาก โดยปริมาณน้ำฝนจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของปริมาณน้ำฝนบนที่ต่ำ เนื่องจากอิทธิพลของเมฆ/หมอกที่ปกคลุมยอดภูกระดึงเป็นเนืองนิจ ในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคมอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยระหว่าง 0-10 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยระหว่าง 21-24 องศาเซลเซียส ส่วนในฤดูร้อนระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยระหว่าง 12-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยระหว่าง 23-30 องศาเซลเซียส อากาศบนยอดภูกระดึงมักจะแปรปรวน มีเมฆหมอก ลอยต่ำปกคลุมบ่อยครั้ง อากาศจึงค่อนข้างเย็นตลอดปี

Read More

วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2552

เคโรโระ ขบวนการอ๊บ อ๊บป่วนโลก



เคโรโระ ขบวนการอ๊บอ๊บป่วนโลก

1. ข้าน้อยคือสิบโทเคโรโระ ขอรับกระผม! เคโรโระ มนุษย์ดาวเครอนที่กลายเป็นพ่อบ้านประจำครอบครัวฮินาตะ แต่แท้จริงแล้วมันกะว่าจะมายึดครองโลกนี้ต่างหาก เฮ้ๆ อย่าเข้าใจข้าน้อยผิดสิเฟ้ย ก้าวแรกบนผืนแผ่นดิน ขอรับกระผม! ย้อนไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ครอบครัวฮินาตะซึ่งมีชีวิตปกติสุข ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน เมื่อมีมนุษย์ต่างดาวที่จะมารุกรานโลกอาศัยอยู่ในบ้านตน
2. โมโมกะกับทามามะ ออกปฏิบัตการได้ขอรับกระผม! สิบโทเคโรโระ เริ่มคิดที่จะออกตามหาพรรคพวกที่กระจัดกระจายกันไป จึงได้แอบตามฟุยูกิกับนัทสุมิไปที่โรงเรียนเพื่อหาเบาะแสของพรรคพวกที่ชื่อ ทามามะ โมโมกะตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะสานสัมพันธ์รักกับฟุยูกิที่บ้านฮินาตะ แต่ต้องเจอกับแผนครองโลกอันซุกซนของเคโรโระ เธอจะทำสำเร็จมั๊ยนะ...
3. ก้าวข้ามขีดจำกัดให้จงได้ ขอรับกระผม เคโรโระกำลังเบื่อหน่ายชีวิตในบ้านอย่างที่สุด เขาไม่ไดด้ออกไปไหนเลยทำให้รู้สึกซังกะตายอย่างแรง แต่ทามามะก็เฉลยทางออกที่คาดไม่ถึง นัทสุมิผู้ตั้งตนเป็นผู้พิทักษ์โลกอย่างเป็นทางการนั้น เกิดสงสัยว่าวันๆหนึ่งเจ้ากบติ๊งต๊องทำอะไรบ้าง ขบวนการส่องกบจึงถือกำเนิดขึ้น
4. กิโรโระ ผู้ชายที่อันตรายที่สุดในจักรวาล กิโรโระ พรรคพวกคนที่ 2 ของเคโรโระ ได้ปรากฎตัวออกมาแล้ว กิโรโระเป็นผู้ที่ได้รับฉายาว่าผู้ชายที่อันตรายที่สุดในจักรวาล เข้ามาที่บ้านฮินาตะแล้ว กิโรโระตัดสินใจที่จะอยู่บ้านฮินาตะเพื่อวางแผนยึดครองโลกกับเคโรโระ (และเพื่อให้อยู่ใกล้ชิดกับนัทสุมิ) หน้าที่กับหัวใจชักขัดแย้งกันเองสะแว้ววววว


Read More

ทะเลแหวก อันซีนไทยแลนด์แห่งทะเลกระบี่





ทะเลแหวก อันซีนไทยแลนด์แห่งทะเลกระบี่
แต่ใครที่มากระบี่แล้วไม่ได้ดูทะเลแหวกก็ถือว่ายังมาไม่ถึง ไม่ไกลจากเกาะปอดะนัก เป็นที่ตั้งของเกาะไก่ และเกาะทับ ที่เมื่อเวลาน้ำลดจะสามารถมองเห็นสันทรายเชื่อมต่อกันระหว่างเกาะสองเกาะนี้จนได้ชื่อว่าเป็นอันซีนไทยแลนด์ ไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถเดินเท้าข้ามจากเกาะหนึ่งไปอีกเกาะหนึ่งได้แบบไม่ต้องว่ายน้ำ แม้ว่าสันทรายจะถูกคลื่นสึนามิพัดไปจนลึกลงไปมากกว่าเดิม แต่ระหว่างเกาะไก่และเกาะทับก็ยังมีสันทรายให้เห็นได้เดินข้าม เพียงแต่ต้องรอเวลาให้น้ำลดเต็มที่เท่านั้น

ห่างออกมาอีกหน่อย ที่อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ยังมีเกาะอีกเกาะหนึ่งของท้องทะเลกระบี่ที่สวยงามมาก นั่นก็คือเกาะห้อง หรือที่เรียกตามภาษาท้องถิ่นว่าเกาะเหลาปิเละ หมู่เกาะห้องนี้ประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยอีกหลายเกาะ และเกาะทางตอนใต้ที่ใหญ่ที่สุดก็คือเกาะห้องหรือเกาะเหลาปิเละนี้เอง ชายหาดมีลักษณะเป็นสระธรรมชาติ ล้อมด้วยเขาหินสูงชันเกือบรอบด้าน น้ำทะเลที่นี่ใสสะอาด หาดทรายขาว มองเห็นปลาเสือมาคอยว่ายวนเวียนรออาหารจากนักท่องเที่ยว

กิจกรรมสำหรับทำบนเกาะห้องนี้นอกจากจะอาบแดด เล่นน้ำ และดำน้ำดูปะการังทั้งน้ำตื้นและน้ำลึกแล้ว ที่นี่ก็ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทาง 400 เมตร สำหรับผู้รักธรรมชาติด้วย แต่กิจกรรมที่ได้รับความนิยมที่เกาะห้องก็คงจะเป็นการพายเรือแคนูเลาะเรียบไปตามชายหาด และพายไปยังอีกด้านหนึ่งของเกาะ ซึ่งตรงนั้นจะมีทะเลใน หรือที่เรียกว่าลากูนซ่อนตัวอยู่ สวยงามมาก

Read More

ส้มตำแซ่บๆๆๆๆ




ส้มตำ เป็นอาหารคาวของไทยอย่างหนึ่ง มีต้นกำเนิดไม่แน่ชัดโดยน่าจะมาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของไทยและ ประเทศลาว ส่วนมากจะทำโดยนำมะละกอดิบที่ขูดเป็นเส้น มาตำในครกกับ มะเขือเทศลูกเล็ก ถั่วลิสงคั่ว กุ้งแห้ง พริก และกระเทียม ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ปูดองหรือปลาร้า ให้มีรสเปรี้ยว เผ็ด และออกเค็มเล็กน้อย นิยมกินกับข้าวเหนียวและไก่ย่าง โดยมีผักสด เช่น กะหล่ำปลี หรือถั่วฝักยาว เป็นเครื่องเคียง
ร้านที่ขายส้มตำ มักจะมีอาหารอีสานอย่างอื่นขายร่วมด้วย เช่น
ซุปหน่อไม้ ลาบ ก้อย น้ำตก ไก่ย่าง ข้าวเหนียว เป็นต้น
เนื้อหา

1 ประวัติ
2 ส้มตำแบบต่างๆ
3 เพลง
4 อ้างอิง


ประวัติ

หน้า 171 ในหนังสือของ เดอ ลา ลูแบร์ กล่าวถึงมะละกอ
ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่ามีการนำมะละกอดิบมาปรุงเป็นส้มตำเป็นครั้งแรกเมื่อใด อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาถึงที่มาของส่วนประกอบต่างๆ ของส้มตำ อาจได้ข้อมูลเบื้องต้นเพื่อประกอบการสันนิษฐานถึงที่มาของส้มตำได้
มะละกอเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลางและถูกนำเข้ามาปลูกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยชาวสเปนและโปรตุเกส ในยุคต้นของกรุงศรีอยุธยา ในขณะที่พริกอาจถูกนำเข้ามาเผยแพร่โดยชาวฮอลันดาในช่วงเวลาต่อมา
ในสมัย
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีทูตชาวฝรั่งเศสผู้มาเยือนกรุงศรีอยุธยา คือ นิโคลาส์ แชรแวส และ เดอ ลาลูแบร์ ต่างได้พรรณาว่าในเวลานั้นมะละกอได้กลายเป็นพืชพื้นเมืองชนิดหนึ่งของสยามไปแล้ว[1] และได้กล่าวถึง กระเทียม มะนาว มะม่วง กุ้งแห้ง ปลาร้า ปลากรอบ กล้วย น้ำตาล แตงกวา พริกไทย ถั่วชนิดต่างๆ ที่ล้วนสามารถใช้เป็นส่วนประกอบสำหรับปรุงส้มตำได้ ขณะเดียวกันได้เขียนว่า ในขณะนั้นสยามไม่มี กะหล่ำปลี และ ชาวสยามนิยมบริโภคข้าวสวย อย่างไรก็ตามไม่มีการกล่าวถึง มะเขือเทศ และ พริกสด แต่อย่างใด
ในปัจจุบัน ส้มตำเป็นอาหารที่แพร่หลายและนิยมรับประทานทุกภาคของประเทศไทย และยังเป็นอาหารไทยที่ขึ้นหน้าขึ้นตาต่อชาวโลกอีกด้วย

ส้มตำแบบต่างๆ
ส้มตำไทย ไม่ใส่
ปูและปลาร้า แต่ใส่กุ้งแห้งและถั่วลิสงคั่วแทน รสชาติออกหวานและเปรี้ยวนำ บางถิ่นอาจใส่ปูดองเค็มด้วย เรียกว่า ส้มตำไทยใส่ปู
ส้มตำปู ใส่ปูเค็มแทน
กุ้งแห้งและถั่วลิสงคั่ว รสชาติออกเค็มนำ
ส้มตำปลาร้า ใส่
ปลาร้าแทนกุ้งแห้ง นิยมรับประทานกันมากในภาคอีสาน
ตำซั่ว ใส่ทั้งเส้น
ขนมจีนและเส้นมะละกอ นิยมรับประทานกันมากในภาคอีสาน
ตำป่า ใส่ผักหลายชนิด เช่น
ผักกระเฉด ผักกาดดอง ปลากรอบ ถั่วลิสง ถั่วงอก ถั่วฝักยาว รวมถึงหอยแมลงภู่ จะนิยมรับประทานในภาคอีสาน
ตำโคราช ใส่เครื่องปรุงผสมระหว่างส้มตำไทยและส้มตำปลาร้า คือใส่ทั้งกุ้งและปลาร้า
ส้มตำไข่เค็ม ใส่เครื่องปรุงผสมระหว่างส้มตำไทยและไข่เค็ม ไม่ใส่ปูดอง ทำให้ส้มตำมีน้ำข้น รสชาติกลมกล่อมพอดี เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบส้มตำเผ็ดจัด
นอกจากนี้ ยังมีบางที่ นำเอาผักหรือผลไม้ดิบ อย่างเช่น
มะม่วงดิบ ใส่แทนมะละกอดิบ เรียกว่า "ตำมะม่วง," กล้วยดิบ เรียกว่า "ตำกล้วย," แตงกวา เรียกว่า "ตำแตง," ถั่วฝักยาว เรียกว่า "ตำถั่ว," และแครอทดิบ เป็นต้น ถ้าใช้ผลไม้หลายๆ อย่างเรียกว่า ตำผลไม้
นอกจากนี้ยังมีการใส่วัตถุดิบอย่างอื่นลงไป เช่น ใส่
ปูม้าเรียกว่า ส้มตำปูม้า ใส่หอยดองเรียกว่า ส้มตำหอยดอง

เพลง
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงพระราชนิพนธ์ เพลงส้มตำ ขึ้นโดยมีการใส่ท่วงทำนองในรูปแบบเพลงลูกทุ่ง และ ขับร้องโดยนักร้องที่มีชื่อเสียงหลายท่านจนเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย
อนึ่ง
เทียรี่ เมฆวัฒนา ได้แต่งเพลงที่มีเนื้อหากล่าวถึง ส้มตำ ในเพลงชื่อ ปาปาย่า ป๊อก ป๊อก และเป็นเพลงที่ได้รับความนิยม ซึ่งในสมัยสงครามเวียดนาม คำว่า ปาปาย่า ป๊อก ป๊อก นี้เป็นที่รับรู้กันในสังคมว่าหมายถึงส้มตำ แต่มิใช่เป็นคำเรียกส้มตำในภาษาอังกฤษอย่างที่หลายคนเข้าใจ

Read More

ข้าวแกงกะหรี่ไก่ญี่ปุ่น



ข้าวแกงกะหรี่ไก่ญี่ปุ่น
เครื่องปรุง
ข้าวสวยญี่ปุ่น 3 ถ้วย สะโพกไก่ น้ำหนัก 200 กรัม 2 ชิ้น แครอท 1/2หัว มันฝรั่ง 1/2หัว หอมใหญ่ 1 หัว มันฝรั่งต้มสุกบดละเอียด 1/2หัว กระเทียม สับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ้วญี่ปุ่น 1 ช้อนชา ผงกะหรี่ 1 ช้อนชา น้ำซุปปลาแห้ง 1 ถ้วย น้ำ 1 ถ้วย เนย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ

1. ล้างสะโพกไก่ เลาะกระดูกและหนังออก หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาด 2*2 ซม. พักให้สะเด็ดน้ำ

2. เคล้าเนื้อไก่กับเกลือ พริกไทย พอทั่ว หมักไว้ประมาณ 15 นาที

3. ล้างแครอท มันฝรั่ง ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาด 2*2 ซม. ปอกเปลือกหอมใหญ่ ล้างน้ำ หั่นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาด 2*2 ซม.

4. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟกลางพอร้อน ใส่เนื้อไก่ที่หมักในข้อ 2 ลงทอด พอตึงตัว ตักขึ้น ให้สะเด็ดน้ำมัน

5. ต้มแครอท มันฝรั่ง พอสุก ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน

6. ผสมซีอิ้วญี่ปุ่น น้ำซุป น้ำ ตั้งไฟเคี่ยวประมาณ 10 นาที ใส่ผงกะหรี่ ใส่หอมใหญ่ แครอทต้ม มันฝรั่งต้ม ไก่ทอด เคี่ยวสักครู่

7. ใส่เนยลงในกระทะ ตั้งไฟกลางพอเนยละลาย ใส่กระเทียม เจียวพอหอมใส่ลงในหม้อไก่ คนให้เข้ากัน ใส่มันฝรั่งบด เคี่ยวพอน้ำมีลักษณะข้นเหนียว ปิดไฟ

8. วิธีจัดเสิร์ฟ ตักข้าวสวยใส่จาน ตกแต่งด้วยใบชิโซ ตักแกงกะหรี่วางข้างๆ

Read More

ร้านขนมเค้ก




10 ร้านเค้กบรรยากาศแสนหวาน รับวาเลนไทน์นี้
ที่จะตรึงใจคู่รักไปอีกนานแสนนาน

ชั่วโมงแห่งการใช้เวลาร่วมกันแบบหวานๆนั้น จะดีแค่อาหารหรือบรรยากาศไม่พอ แต่ต้องสมบูรณ์พร้อม จึงจะทำให้คุณตราตรึงเก็บไว้ในความทรงจำได้ ทั้ง 10 ร้านที่แนะนำนี้ล้วนมีความโดดเด่น ต่างกันไปหลายสไตล์ ดูแล้วสไตล์ไหนตรงกับคุณ ขออย่ารอช้า เชิญไปดื่มด่ำบรรยากาศ ลิ้มลองความอร่อยด้วยตัวคุณเอง และสุดท้ายขอให้มีความสุขในวันแห่งความรักนะคะ





1. ละเลียด
โอเอซิสขนาดย่อมของคนรักเบเกอรี่จริงๆ เพราะภายในร้านที่มีพื้นที่จำกัด แต่กลับมีพื้นที่มากพอจะทำให้เราตื่นตาไปกับเบเกอรี่และขนมที่ฟู่ฟ่า มีทั้งเค้ก ช็อกโกแลต มากมาย(เยอะจริงๆ) แต่ละชิ้นตกแต่งสีสันสวยงามน่ากิน และการันตีความอร่อยว่าไม่เป็นสองรองใคร ส่วนเครื่องดื่มก็มีให้เลือกกินทั้งชาและกาแฟ แต่ถ้าสั่งเค้กขอแนะนำว่ากินคู่กับชาออร์แกนิกส์ดีกว่า แต่ไม่ว่าจะสั่งชาอะไรทางร้านก็จะเบลนผสมกับชาดอกไม้ออร์แกนิกส์มาด้วย ช่วยลดคอเรสเตอรอลแล้ว ยังได้กลิ่นหอมแบบอโรมาเธอราปี H&C Recommend : Crown nine, French vanilla satin, Vanilla pudding cake, ชาดอกไม้ออร์แกนิค Caramel frappuccino ที่อยู่ : ซอยโชคชัยร่วมมิตร วิภาวดี 16 ถ้าเข้าทางรัชดาจะเป็นซอยรัชดา 19 ราคา : เบเกอรี่ราคาเริ่มต้นที่ 25 – 950 บาท วันเวลาเปิดปิด : จันทร์-เสาร์ 10.00 น. – 20.00 น. วันอาทิตย์ 9.00 น. – 18.00 น. เบอร์โทร : 0-2691-5449,0-2276-2464, 08-3296-7887



2. ไล-บรา-รี่
ร้านกาแฟย่านพระรามเก้าที่นอกจากจะเป็นสวรรค์ของคนรักอาหารการกินแล้ว ยังเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์น้อยๆของหนอนหนังสือ เพราะเมื่อนั่งอยู่ในร้านจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ตกแต่งสบายๆเหมือนอยู่ที่บ้าน ที่นั่งมีให้เลือกทั้งโซนนอกและในบ้าน สบายไม่ต่างกัน กาแฟและเบเกอรี่เป็นสไตล์โฮมเมดรสเยี่ยม กระซิบอีกนิดอาหารร้านนี้ก็อร่อยไม่แพ้เบเกอรี่เลย ไปหนึ่งได้ถึงสองคุ้มจริงๆ H&C Recommend : บานอฟฟี่ บานาน่าครัมเบิ้ล นิวยอร์คชีสเค้ก กาแฟเย็นไล-บรา-รี่ เวรี่เบอร์รี่สมู้ตที ที่อยู่ : ซอยพระรามเก้า 41 (ซอยข้างพรีเมียร์พระรามเก้า) ราคา : เบเกอรี่ราคาเริ่มต้นที่ 75 – 105 บาท เครื่องดื่ม เริ่มต้นที่ 65 – 110 บาท วันเวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน 10.00 น. – 21.00 น. เบอร์โทร : 0-2718-3993 อื่นๆ : วันอังคารและพฤหัสบดี เบเกอรี่ลด 20%



3. After you
หลังจากที่ H&C ได้เชิญคุณเม – กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ มาทำขนมลงคอลัมน์ Bakery lover อยู่หลายครั้ง ครั้งนี้จึงขอแนะนำร้าน after you ของคุณเมสักที เมนูเด็ดที่ห้ามพลาด คือ ขนมปังชิบูย่าที่ปิ้งจนร้อนฉ่ำเนย เสิร์ฟกับไอศกรีมวานิลลาและวิปครีม ราดน้ำผึ้งอีกนิด สุดยอดจริงๆ(ไปทีไร ก็ต้องสั่งมากินทุกที) ยังมีอีกหลายเมนูที่อร่อย และบางเมนูก็เคยลงใน H&C มาแล้ว บางเมนูก็อยู่ในตำราทำขนม May made ส่วนกาแฟประทับใจกับเมนูลาเต้ที่เสิร์ฟมาในชามใบย่อม ดื่มร้อนๆเต็มอิ่มดีเชียวล่ะ H&C recommend : Shibuya honey toast, Chocolate lava, Cappuccino coffee ที่อยู่ : ซอยทองหล่อ 13 เข้าซอยไปประมาณ 50 เมตรอยู่หัวมุมทางเข้าที่จอดรถของ J avenue ราคา : เค้กเริ่มต้นที่ 65 บาท สำหรับกาแฟร้อน 75 บาท วันเวลาเปิดปิด : จันทร์-พฤหัสบดีเปิด11.00 น. – 23.00 น. ศุกร์-อาทิตย์ปิด 24.00 น. และเสาร์-อาทิตย์เปิดตั้งแต่ 9.00 น. เบอร์โทร : 0-2712-9266



4. Dressing dessert
เค้กแต่ละชนิดตกแต่งอย่างน่ากิน จัดเรียงสวยงามอยู่ในตู้หมุนโชว์ความน่ากินที่ตกแต่งแบบกระจุ๋มกระจิ๋มสไตล์ฝรั่งเศสผสมญี่ปุ่น และไม่ใช่แค่สวยแต่อร่อยมากด้วย ที่สำคัญทำสดใหม่ทุกวัน Strawberry roll ทำจากครีมสดรสนุ่ม Bread butter pudding กับ Vanilla sauce ร้อนๆ อร่อยเกินห้ามใจ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ท่ามกลางบรรยากาศหวานๆสไตล์วินเทจแบบนี้ ยิ่งช่วยเพิ่มดีกรีความหวานในหัวใจได้ยิ่งขึ้น H&C Recommend : Bread butter pudding, Strawberry roll, Double choc, คัพเค้กต่างๆ ที่อยู่ : ทาวน์อินทาวน์ 3/1 ลาดพร้าว 94 ราคา : ราคาเริ่มต้นที่ 45 – 95 บาท วันเวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน 10.00 น. – 22.00 น. เบอร์โทร : 08-3999-4981 อื่นๆ : รับจัดงานนอกสถานที่



5. Coffee alley in the garden
เพียงเดินเข้าไปซอยประมาณ 100 เมตร ก็จะพบร้านกาแฟร้านนี้ซ่อนอยู่ เป็นบ้านหลังเล็กๆน่ารักมีสวนขนาดย่อมด้านนอกไว้นั่งสูดอากาศสบาย ๆ ที่นี่จึงเหมือนเป็นที่พักผ่อนพบปะสังสรรค์ของคนทำงานละแวกนั้น ในร้านมีกาแฟ ขนม และอาหารจานเดียวไว้คอยบริการ ขนมอบใหม่ทุกวันจากครัวเล็กๆในร้าน สำหรับคอกาแฟที่นี่มีเมล็ดกาแฟที่สั่งคั่วสูตรเฉพาะ รสไม่เข้มมากแต่หอมอร่อยกลมกล่อม H&C recommend : Double chocolate cake , White chocolate cream cake , Brownie donut , Coffee ice alley ที่อยู่ : สุขุมวิท 16 จากปากซอยเข้าไปประมาณ 100 เมตร ร้านอยู่ทางขวามือ ราคา : เริ่มต้นที่ 45 – 80 บาท วันเวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ 7.00 น. – 21.00 น. เสาร์ – อาทิตย์ 8.00 น. – 21.00 น. เบอร์โทร : 0-2258-8300



6. Cafe Sweets
หากดูภายนอกจะเห็นบ้านไม้หลังสีขาวในสวนสวยกลางใจเมือง แต่เมื่อก้าวเข้าไปในร้านยิ่งชวนให้ประทับใจเพราะการตกแต่งร้านที่แสนน่ารักโรแมนติก ประกอบกับรสชาติขนมที่กินแล้วอร่อยจนต้องให้เป็นร้านเบเกอร์รี่หนึ่งในดวงใจอีกร้าน เบเกอร์รี่ของร้านนี้มีเอกลักษณ์ ชิมคำแรกก็สัมผัสได้ถึงความเข้มข้นในรสชาติทั้งหอมนุ่มอร่อยละมุนลิ้น จะกินคู่กับชา กาแฟ และสมู้ตทีก็ได้มีให้เลือกตามชอบ H&C recommend : Crepe cake , Strawberry shortcake , Brownie cheese cake ที่อยู่ : บนถนนสาทรระหว่างซอยสวนพลู กับสาทรซอย 5 ราคา : เริ่มต้นที่ 50 – 95 บาทวันเวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน 11.00 – 22.00 น. เบอร์โทร : 0-2286-2454



7. Cafe Turin
เมื่อกาแฟลาเต้เสิร์ฟลงตรงหน้าและเงยขึ้นมองรอบร้าน ก็รู้สึกได้ว่าร้านนี้ช่างให้บรรยากาศอิตาเลี่ยนสไตล์สุดคลาสสิค เหมือนกับยกเอาร้านคาเฟ่มาจากเมืองโตริโน่ยังไงยังงั้นเลย ส่วนเมนูเบเกอรี่มีให้เลือกกินหลากหลายทั้งแซนด์วิช ครัวซอง แดนิช มัฟฟิน เค้ก ซึ่งล้วนเป็นฝีมือจากเชฟเพสตรี้มือฉมังของเครือซานอตติกรุ๊ป จึงการันตีได้ว่าอร่อยระดับห้าดาว สำหรับกาแฟนั้นต้องใช้กาแฟชั้นยอดจากอิตาลี ที่นี้ใช้แต่เม็ดกาแฟระดับพรีเมี่ยมของ illy หอมเข้มถูกใจคอกาแฟแน่นอน H&C recommend : Almond croissant, Chocolate Danish, Chocolate cake, Almond cake ที่อยู่ : ซอยศาลาแดง เข้าซอยไปประมาณ 100 เมตรจะอยู่ในซอยซ้ายมือด้านหลังร้าน Zanotti ราคา : กาแฟเริ่มที่ 70 บาท และเบเกอรี่เริ่มต้นที่ 60 บาท วันเวลาเปิดปิด : 6.00 น. – 17.00 น. หยุดวันอาทิตย์ เบอร์โทร : 0-2233-4509



8. Mont Blanc
เพราะเจ้าของร้านไปเรียนทำขนมไกลถึงญี่ปุ่นจึงไม่น่าแปลกใจที่ขนมของที่นี่จะมีหน้าตาสีสันน่ากิน ทั้งวิธีการทำและรสชาติเป็นสไตล์ญี่ปุ่น นอกจากเบเกอรี่แล้วยังมีไอศกรีมโฮมเมดให้เลือกอีกหลายรส รวมทั้งกาแฟและเครื่องดื่มอีกหลายชนิด ในบรรยากาศร้านที่นั่งสบาย ๆ จึงทำให้ขายดีจนขยายสาขาอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่นาน รู้อย่างนี้แล้วถ้าใครมีโอกาสไปเชียงใหม่ต้องแวะไปให้ได้ H&C recommend : ช็อกโกแลตมูส ทีรามิสุ ที่อยู่ : ปากซอยนิมมานเหมินทร์ 7 จังหวัดเชียงใหม่ ราคา : ราคาเริ่มต้น 10 – 65 บาท วันเวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน : 8.30 น. – 22.00 น. เบอร์โทร : 0-5321-0776



9. Sometime’s
ภายในร้านมีทั้งโซนดื่มชาสไตล์วินเทจ มุมเคร่งขรึมหนักแน่นอารมณ์กาแฟ หรือด้านหลังที่จัดไว้เหมือนห้องสมุดในบ้าน ทุกโต๊ะทุกมุมต่างสวยน่ารัก ไม่แพ้กัน สำหรับเค้กมีให้เลือกไม่มาก คัดมาแต่เมนูที่อร่อยและขึ้นชื่อ ส่วนเครื่องดื่มก็ถือว่าเป็นจุดเด่น เพราะกาแฟที่นี่ชงอย่างใส่ใจทั้งเรื่องกลิ่น รสและอุณหภูมิ แถมยังมีวิธีการชงแบบพิเศษอื่นๆให้เลือก เช่น Turkish coffee, French press ส่วนชานั้นมีให้เลือกหลายยี่ห้อ ใบชาชั้นยอดที่หาดื่มได้ยากอย่าง “Rooibos”ก็มีให้ดื่มด้วย H&C recommend : Double chocolate cake, Cappuccino cake, Cappuccino oh..yeh (โปรดสอบถามวิธีดื่มจากพนักงานก่อนดื่ม!) ที่อยู่ : ซอยปรีดีพนมยงค์ (ซอยสุขุมวิท71) ระหว่างซอย38และ40 ราคา : เครื่องดื่มร้อนเริ่มที่ 45 บาท เครื่องดื่มเย็น 95 บาท เค้กเริ่มต้น 85 บาท วันเวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 7.00 น. – 22.00 น. เบอร์โทร : 0-2713-3584-5 http://www.sometimecoffee.com/



10. A cup of tree
เมื่อมาถึงร้านก็อดอมยิ้มไม่ได้ เพราะแค่การตกแต่งร้านก็คุ้มค่าการเดินทางแล้ว ด้านในแต่งบรรยากาศแบบเรียบง่ายมีกลิ่นอายเรโทรเล็กๆ ส่วนสวนด้านหลังร่มครึ้มสไตล์สวนอังกฤษ สำหรับเค้กที่นี่เป็นแบบโฮมเมด ชนิดว่าตั้งโต๊ะตีผสมโชว์กันกลางร้านเลยทีเดียว แถมอบใหม่ๆส่งกลิ่นเย้ายวนใจมาก ส่วนกาแฟใช้เมล็ดกาแฟของแม่ฟ้าหลวง ซึ่งคุณโกะเจ้าของบอกว่ากาแฟไทยก็ดีไม่แพ้ที่อื่นเหมือนกัน รับประกันว่าร้านนี้จะทำให้คุณอยากมาซ้ำ แม้ว่าต้องเดินทางไกลแค่ไหนก็ตาม H&C recommend : บลูเบอร์รี่ครีมชีสครัมเบิ้ลเค้ก(รับรองไม่เหมือนร้านอื่น) เชอร์รี่พุดดิ้งกับวานิลลาซอส ที่อยู่ : อยู่ด้านหน้าตลาดต้นไม้ธัญศิริ บนถนนรังสิตนครนายก คลอง 6 ราคา : เค้กเริ่มต้นที่ 75 บาท มีบริการทำเค้กตามสั่งเป็นปอนด์ด้วย วันเวลาเปิดปิด : 9.00 น. – 18.00 น. หยุดวันจันทร์ เบอร์โทร : 0-2577-6445, 08-1854-9989

Read More

วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552

ประโยชน์ของน้ำแตงโม


แตงโม ผลไม้ลูกกลม ลูกรี ตลอดจนลูกทรงกระบอก เป็นพืชไม้เถาตระกูลเดียวกับพืชตระกูลแตง เช่น แตงกวา แตงแคนตาลูป และฟัก แตงโมเป็นพืชเมืองร้อนที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแอฟริกาตอนเหนือและตะวันออกกลาง มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Citrullus vuigaris ลำต้นเป็นเถาเลื้อยแผ่ไปตามพื้นดิน ใบมีลักษณะเว้าลึก 3-4 หยัก ก้านใบยาว ทั้งเถาและใบมีขน

แตงโม มีมากมายหลายพันธุ์ให้เลือกรับประทาน พันธุ์ที่นิยมกันมาก ก็มีแตงโมจินตหรา แตงโมตอปิโดและแตงโมที่มีเนื้อสีเหลือง หรือแตงโมน้ำผึ้ง ส่วนใครที่ไม่ชอบรับประทานแตงโม เพราะรำคาญเมล็ดอันมากมายของมัน เดี๋ยวนี้เขาก็มีแตงโมพันธุ์ไม่มีเมล็ดให้เลือกซื้อเหมือนกัน แต่สนนราคาก็แพงน่าดู

แตงโม ไม่เพียงมีรสหวานและเย็นเท่านั้น ยังมีสารอาหารต่างๆที่มีประโยชน์ ทั้งแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก โปแตสเซียม และวิตามินต่างๆ โดยเฉพาะวิตามินเอ ซึ่งมีมากเป็นพิเศษในเนื้อแตงโมที่มีสีแดงๆ

แตงโม เป็นผลไม้ฉ่ำน้ำ มีความเย็น รสหวาน รับประทานเป็นผลไม้แก้กระหายคลายร้อนได้อย่างดี หรือนำมาทำเป็นน้ำแตงโมปั่น น้ำแตงโมเชค ดื่มแก้กระหาย หรือดื่มเป็นน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ ดื่มกันได้ตลอดทั้งวัน อาจเป็นช่วงระหว่างมื้ออาหาร หรือก่อนนอนก็ได้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อ่อนเพลียมากๆ เช่น ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะพักฟื้น หรือหลังจากการผ่าตัด เพราะน้ำแตงโมช่วยให้ร่างกายรู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้น

น้ำแตงโม ยังช่วยทำให้ร่างกายขับปัสสาวะได้ดี จึงมีผลช่วยล้างไต ล้างกระเพาะปัสสาวะ ไม่ให้ร่างกายมีการสะสมกรดยูริค อันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคไขข้อ โรคเกาต์ สำหรับคนผิวหนังแห้งกร้าน อันเนื่องมาจากภาวะเลือดเป็นกรด เพราะกินเนื้อสัตว์ ของทอด ขนมหวาน อาหารแป้งขัดขาว และเครื่องดื่มพวกกาแฟ โคล่ามากเกินไป น้ำแตงโมช่วยได้ นอกจากนี้ในเนื้อแตงโมยังมีเอ็นไซม์ที่ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารอีกด้วย ก่อนกินข้าวก็ดื่มน้ำแตงโมสักแก้วจะได้เจริญอาหาร

การเลือกซื้อแตงโม ต้องซื้อที่มีผิวเปลือกเรียบ ไม่เป็นรอย รูปทรงสวยงาม ถ้าเลือกซื้อที่ผ่าแล้วได้ยิ่งดี เพราะจะได้เห็นลักษณะของเนื้อแตงโมได้ เนื้อแตงโมต้องมีสีแดง เนื้อเนียน ไส้ไม่ส้ม มีรสหวานเย็นน้ำแตงโมปั่น

วิธีทำ เนื้อแตงโม เอาเมล็ดออกหั่นชิ้นเล็ก 2 ถ้วย น้ำต้มสุก 1/2 ถ้วย น้ำเชื่อม 3 ช้อนโต๊ะ น้ำแข็งบดละเอียด 1 ถ้วย ปั่นส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด รินใส่แก้ว ดื่มทันทีน้ำแตงโมเชค

วิธีทำ เนื้อแตงโมเอาเมล็ดออกหั่นชิ้นใหญ่ 3 ถ้วย มะนาว 1 ลูก ส้มเขียวหวาน 2 ผล คั้นน้ำส้มและน้ำมะนาวเตรียมไว้ นำแตงโมมาคั้นน้ำด้วยเครื่องแยกกาก แยกน้ำไว้ ใส่น้ำแตงโม น้ำมะนาว น้ำส้มคั้น และน้ำแข็งก้อนลงในเชคเกอร์ ปิดฝา เขย่าให้เข้ากัน รินใส่แก้วดื่มทันที

Read More